ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (19 ส.ค.) สัญญาถั่วเหลืองฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี เนื่องจากเทรดเดอร์ต่างเฝ้ารอดูว่าการทัวร์สำรวจพื้นที่เพาะปลูกครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้จะยืนยันการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐมีผลผลิตอุดมสมบูรณ์กว่าปกติหรือไม่
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.50 เซนต์ หรือ +2.02% ปิดที่ 3.7800 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.25 ดอลลาร์ หรือ -0.05% ปิดที่ 5.5225 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 19.00 เซนต์ หรือ +1.99% ปิดที่ 9.7600 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองตกต่ำลงเนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งการคาดการณ์ว่าผลผลิตในสหรัฐจะออกมามหาศาลหลังจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกในปีนี้ ประกอบกับเกษตรกรเร่งระบายสต็อกที่มีอยู่จำนวนมาก และความต้องการจากจีนที่ซบเซาลง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า การเริ่มต้นทัวร์สำรวจพืชผลประจำปีของ Pro Farmer ในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐเมื่อวันจันทร์ ช่วยให้ราคาธัญพืชทั้งสองเริ่มฟื้นตัวขึ้น
อาร์ลัน ซูเดอร์มาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ของ StoneX กล่าวว่า "จนถึงตอนนี้ รายงานจากพื้นที่เพาะปลูกยังไม่มีอะไรใหม่ที่บ่งชี้ว่าผลผลิตจะมากไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้ว"
ด้านเทรดเดอร์ยังคงจับตาสภาพอากาศในแถบมิดเวสต์ ขณะที่ข้าวโพดและถั่วเหลืองเข้าสู่ช่วงเติบโตขั้นสุดท้าย นักวิเคราะห์ระบุว่า การพยากรณ์อากาศชี้ให้เห็นว่าจะมีช่วงแห้งแล้งในสัปดาห์หน้า หลังจากที่มีฝนตกทั่วพื้นที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายไมค์ ซูโซโล ประธานบริษัท Global Commodity Analytics & Consulting กล่าวว่า "ผมว่าตลาดกำลังพยายามบวกราคาเพิ่มจากปัจจัยสภาพอากาศเข้าไปในราคาสินค้าเกษตรของสหรัฐ เนื่องจากการคาดการณ์เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าสภาพอากาศจะแห้งแล้ง"
ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ได้รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า มีการขายถั่วเหลืองสหรัฐให้กับจีนโดยตรงจำนวน 332,000 เมตริกตัน และอีก 110,000 ตันให้กับประเทศที่ไม่เปิดเผยชื่อ โดยมีกำหนดส่งมอบในปีการตลาด 2567/2568 ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับความต้องการที่ลดลงของจีนได้บ้าง