ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (21 ส.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวไร้ทิศทาง โดยราคาสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองขยับขึ้น ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.50 เซนต์ หรือ +0.13% ปิดที่ 3.7550 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.50 ดอลลาร์ หรือ -2.25% ปิดที่ 5.4400 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 4.50 เซนต์ หรือ +0.46% ปิดที่ 9.8150 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลง เนื่องจากปริมาณข้าวสาลีทั่วโลกที่มีมากและข้าวสาลีส่งออกราคาถูกจากภูมิภาคทะเลดำเป็นปัจจัยกดดันราคา ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่จะมีความเป็นไปได้ที่จะมีการหยุดเดินรถไฟในแคนาดาในวันนี้ (22 ส.ค.)
คาร์ล เซตเซอร์ หุ้นส่วนบริษัท Consus Ag กล่าวว่า การหยุดเดินรถไฟขนส่งสินค้าในแคนาดาอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตรของทวีปอเมริกาเหนือ แต่ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็ยังคงส่งออกข้าวสาลีราคาถูกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้ความต้องการธัญพืชจากสหรัฐไม่ได้เพิ่มขึ้นมากอย่างที่คาดไว้
"ถ้าเกิดการประท้วงหยุดงานขึ้นจริง ผมว่าดีมานด์อาจจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็คงไม่มากนัก เพราะราคาสินค้าของสหรัฐยังแพงกว่าประเทศอื่น ๆ อยู่ดี" เซตเซอร์กล่าว
ทั้งนี้ แคนาดาเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีอันดับ 3 ของโลก ขณะที่สหรัฐเป็นอันดับ 4
ด้านราคาถั่วเหลืองขยับขึ้นเล็กน้อย หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) รายงานว่ามีการขายถั่วเหลืองให้จีนติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว ส่วนราคาสัญญาข้าวโพดปิดตลาดในแดนบวก แม้มีความผันผวนตลอดทั้งวัน เนื่องจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์เริ่มปิดสถานะขายชอร์ต
ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์จับตาดูผลการทัวร์สำรวจพืชผลประจำปีของ Pro Farmer ในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ผลการสำรวจชี้ว่าหลายรัฐมีศักยภาพในการผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองสูงกว่าค่าเฉลี่ย แต่ข้อมูลที่ได้ก็ยังไม่ได้ทำให้ความคาดหวังที่มีสูงอยู่แล้วต่อผลผลิตในฤดูเก็บเกี่ยวที่กำลังจะมาถึงสูงขึ้นไปอีก
ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองยังคงอยู่ใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากมีแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า จะมีผลผลิตอุดมสมบูรณ์และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐ ด้านเทรดเดอร์กล่าวว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์อาจกำลังทยอยปิดสถานะขายชอร์ต เพราะดูเหมือนราคาจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว
โจ เดวิส โบรกเกอร์จาก Futures International กล่าวว่า "พวกเขาทำกำไรจากการขายชอร์ตไปแล้ว ตอนนี้กองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ ๆ กำลังย้ายไปลงทุนในตลาดอื่นแทน"