ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (9 ก.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยถั่วเหลืองที่ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งความต้องการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้น สภาพอากาศแห้งแล้งในเขตปลูกพืชแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเริ่มต้นเพาะปลูกในบราซิล ขณะที่ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีก็ขยับขึ้นเล็กน้อย ตามทิศทางถั่วเหลือง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.50 เซนต์ หรือ +0.13% ปิดที่ 3.8425 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.50 เซนต์ หรือ +0.26% ปิดที่ 5.6850 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 13.00 เซนต์ หรือ +1.29% ปิดที่ 10.1800 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาถั่วเหลืองที่พุ่งขึ้นนั้น เป็นผลจากความต้องการถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับการเริ่มต้นเพาะปลูกที่ล่าช้าในบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก
บริษัทที่ปรึกษา AgRural ระบุว่า การเพาะปลูกถั่วเหลืองในบราซิลยังไม่สามารถเริ่มต้นได้ เนื่องจากความชื้นในดินอยู่ในระดับต่ำ และอากาศแห้งแล้ง
"การปลูกถั่วเหลืองจะล่าช้าออกไปจนกว่าฝนจะกลับมาตกในพื้นที่ แบบจำลองการพยากรณ์อากาศยังไม่เห็นสัญญาณของฝนในเดือนก.ย. แต่ก็ยังคงคาดการณ์ว่าฝนจะกลับมาตกในเดือนต.ค." อาร์ลัน ซูเดอร์มาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ StoneX ระบุไว้ในบันทึกถึงลูกค้า
ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ก็ได้ยืนยันการขายถั่วเหลืองสหรัฐฯ ให้กับจีนในปริมาณ 132,000 เมตริกตัน ซึ่งเป็นการส่งออกถั่วเหลืองไปยังจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก ครั้งล่าสุดในช่วงนี้
ถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะยังคงแห้งแล้งในพื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อถั่วเหลืองที่ปลูกช้า แต่หลังจากตลาด CBOT ปิดทำการ USDA ก็ยังคงประเมินสภาพถั่วเหลืองโดยรวมไว้เท่าเดิม โดยระบุว่า 65% ของผลผลิตอยู่ในสภาพดีถึงดีเยี่ยม ซึ่งขัดกับที่หลายฝ่ายในวงการค้าคาดการณ์ว่าน่าจะลดลง
USDA รายงานว่าการเก็บเกี่ยวข้าวโพดของสหรัฐฯ เสร็จสิ้นแล้ว 5% ซึ่งเร็วกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 3% ส่วนความคืบหน้าในการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองนั้น คาดว่ารัฐบาลจะรายงานตัวเลขแรกออกมาในสัปดาห์หน้า
สถานการณ์ในตลาดยังพบว่า กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์มีสถานะขายชอร์ตสุทธิในสัญญาถั่วเหลือง CBOT ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มที่จะเกิดการซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขายชอร์ต (short-covering) เป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เทรดเดอร์กำลังรอรายงานอุปสงค์และอุปทานรายเดือนของ USDA ในวันพฤหัสบดีนี้ (12 ก.ย.) โดยเฉลี่ยแล้ว นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า รัฐบาลจะปรับลดประมาณการผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ ในรายงานดังกล่าว แต่จะคงประมาณการผลผลิตถั่วเหลืองไว้เท่าเดิม
สำหรับราคาข้าวสาลีนั้นยังคงทรงตัว โดยถูกกดดันจากอัตราการส่งออกที่แข็งแกร่งจากภูมิภาคทะเลดำ แม้ว่าราคาส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียจะแทบไม่เปลี่ยนแปลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา Sovecon กลับชี้ให้เห็นถึงการส่งออกที่คึกคัก โดยประเมินว่ารัสเซียส่งออกข้าวสาลีไปแล้ว 5.7 ล้านตันในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจาก 3.6 ล้านตันในเดือนก.ค.