สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการขาดแคลนข้าวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงนโยบายควบคุมข้าวของรัฐบาล
"ตลอดช่วงฤดูร้อนปี 2567 ญี่ปุ่นได้เผชิญกับปัญหาขาดแคลนข้าวเพื่อการบริโภค ส่งผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่มีข้าวขาย เนื่องจากความต้องการสูงเกินกว่าผลผลิตในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และสต็อกข้าวลดลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 20 ปี" กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ ระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้ง ผู้บริโภคยังเพิ่มการกักตุนข้าวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฤดูพายุไต้ฝุ่นและคำเตือนเกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าซูเปอร์มาร์เก็ตขาดแคลนข้าวขาวและได้จำกัดการซื้อข้าวเพียง 1 ถุงต่อคน โดยสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค (NHK) ให้เหตุผลว่าการขาดแคลนดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการไหลทะลักเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทำให้ความต้องการซูชิและอาหารเมนูข้าวอื่น ๆ พุ่งขึ้น
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นระบุว่า สต๊อกข้าวของเอกชนในญี่ปุ่นแตะ 1.56 ล้านตันในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบหลายปี นอกเหนือจากที่พลเมืองญี่ปุ่นกักตุนข้าวเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติแล้ว กระทรวงฯ ยังชี้ว่า ความต้องการข้าวเพื่อการบริโภคเพิ่มขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทำให้ความต้องการบริการด้านอาหารสูงขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 17.8 ล้านคนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ค. ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 3.3 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์