ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (25 ก.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลี
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.50 เซนต์ หรือ +0.85% ปิดที่ 4.1525 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.25 เซนต์ หรือ +1.95% ปิดที่ 5.8925 ดอลลาร์/บุชเชล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 11.00 เซนต์ หรือ +1.06% ปิดที่ 10.5325 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาสัญญาข้าวสาลีสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเกือบ 2% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในธัญพืช 3 ชนิดนี้ เนื่องจากเทรดเดอร์จับตาสถานการณ์ปัญหาเพาะปลูกในรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยบริษัทที่ปรึกษา Sovecon ระบุว่า การหว่านเมล็ดข้าวสาลีฤดูหนาวของรัสเซียในปีนี้เป็นไปอย่างล่าช้าที่สุดในรอบ 11 ปี สาเหตุจากภาวะภัยแล้ง
นักวิเคราะห์หลายสำนักระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดแรงซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ต (Short-covering)
ทอม ฟริตซ์ หุ้นส่วนของ EFG Group ในชิคาโก กล่าวว่า "ดูเหมือนสถานการณ์ตอนนี้จะขึ้นอยู่กับรัสเซียทั้งหมด อัตราการเพาะปลูกที่ล่าช้าอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตได้ในที่สุด ถึงแม้จะยังเร็วไปที่จะสรุป แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นประเด็นหลัก"
เครก เทิร์นเนอร์ โบรกเกอร์สินค้าโภคภัณฑ์ของ StoneX กล่าวว่า แม้ข้าวสาลีรัสเซียยังคงครองตลาดส่งออกโลกในปัจจุบัน แต่ความต้องการอาจจะหันมาทางสหรัฐฯ ในที่สุด
"มันเป็นแค่เรื่องของเวลา ตลาดข้าวสาลียังคงรอดูสถานการณ์อยู่ ต้องรอดูว่าความต้องการจะกลับมาที่สหรัฐฯ หรือไม่ แต่ถ้ากลับมาจริง กองทุนต่าง ๆ น่าจะเปลี่ยนจากสถานะชอร์ตสุทธิเป็นสถานะซื้อสุทธิ" เทิร์นเนอร์กล่าว
นอกจากนี้ ราคาสัญญาถั่วเหลืองและข้าวโพดก็ดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงในช่วงแรก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะแห้งแล้งในบราซิล ประกอบกับกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ได้ทยอยปิดสถานะชอร์ตก่อนสิ้นเดือนและสิ้นไตรมาส
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นท่ามกลางความกังวลที่กลับมาอีกครั้งเกี่ยวกับสภาพอากาศแห้งแล้งในบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลให้การเพาะปลูกต้องหยุดชะงัก ด้าน Commodity Weather Group ระบุในบันทึกถึงลูกค้าว่า คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเพียงเล็กน้อยเป็นหย่อม ๆ ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าในรัฐมาตูโกรซู ซึ่งเป็นแหล่งปลูกถั่วเหลืองที่สำคัญที่สุดของบราซิล
ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ต่างก็กำลังรอรายงานปริมาณสต็อกธัญพืชรายไตรมาสของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ในวันจันทร์หน้า (30 ก.ย.) ซึ่งรายงานฉบับนี้มักส่งผลให้ราคาสัญญาธัญพืชในตลาด CBOT ผันผวนอย่างรุนแรงอยู่เสมอ