ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (2 ต.ค.) สัญญาข้าวสาลีทะยานขึ้นอีก เหตุเพราะความวิตกกังวลเกี่ยวกับภัยแล้งในรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ ขณะที่เหตุโจมตีท่าเรือริมแม่น้ำของยูเครนด้วยโดรนยังคงตอกย้ำถึงความเสี่ยงจากสงคราม
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.50 เซนต์ หรือ +0.82% ปิดที่ 4.3250 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 16.25 เซนต์ หรือ +2.71% ปิดที่ 6.1525 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.25 เซนต์ หรือ -0.12% ปิดที่ 10.5600 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาข้าวโพดก็ปรับตัวพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากราคาข้าวสาลีและความแข็งแกร่งของตลาดน้ำมัน หลังจากเหตุการณ์อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล
ในทางกลับกัน ราคาสัญญาถั่วเหลืองกลับปรับตัวลง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตก ซึ่งเป็นผลดีต่อพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองทางตอนเหนือของบราซิลในสัปดาห์หน้า
อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาถั่วเหลืองคือรายงานข่าวที่ว่าคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เสนอให้เลื่อนการบังคับใช้กฎระเบียบใหม่เพื่อต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าออกไปอีก 1 ปี หลังจากได้รับเสียงเรียกร้องจากภาคอุตสาหกรรมและประเทศต่าง ๆ โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่า ข้อเสนอให้เลื่อนดังกล่าวช่วยกระตุ้นความต้องการกากถั่วเหลืองของสหรัฐฯ เมื่อเปรียบเทียบกับอุปทานจากอเมริกาใต้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
อนึ่ง หน่วยงานพยากรณ์อากาศของรัสเซียได้ออกมาเตือนเมื่อวันพุธว่า ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อพืชผลในฤดูหนาวในเขตเพาะปลูกสำคัญบางแห่งนั้น "เลวร้ายกว่าปกติ" ในเดือนต.ค.นี้
แม้ว่าบริเวณตะวันตกของภูมิภาคทะเลดำจะมีฝนตกชุก แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวของรัสเซียยังคงแห้งแล้ง ซึ่งจุดประเด็นให้เกิดการคาดการณ์ในตลาดว่ารัสเซียอาจจำกัดการส่งออกในช่วงปลายฤดูกาลนี้
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวที่กำลังจะมาถึงของออสเตรเลียลงกว่าหนึ่งล้านตัน อันเนื่องมาจากภาวะขาดแคลนน้ำฝนและการเกิดน้ำค้างแข็งที่แพร่กระจายเป็นวงกว้าง
คาร์ล เซตเซอร์ หุ้นส่วนของ Consus Ag Consulting กล่าวว่า "ตลาดข้าวสาลีอยู่ในภาวะเปราะบางอย่างยิ่งในขณะนี้ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้กำลังส่งผลกระทบสะสม และความผันผวนก็เริ่มปรากฏชัดเจนในตลาดแล้ว"