ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (7 ต.ค.) สัญญาธัญพืชปรับตัวไร้ทิศทาง โดยราคาถั่วเหลืองขยับลง ขณะที่ข้าวโพดและข้าวสาลีกลับปิดบวก
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 เซนต์ หรือ +0.29% ปิดที่ 4.2600 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ +0.47% ปิดที่ 5.9250 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 3.75 เซนต์ หรือ -0.36% ปิดที่ 10.3400 ดอลลาร์/บุชเชล
ปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาถั่วเหลืองคือการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกในแหล่งผลิตและส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่ของโลกอย่างบราซิล รวมถึงในอาร์เจนตินา นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ยังช่วยเร่งการเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทางด้านข้าวโพดได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งยอดส่งออกที่แข็งแกร่ง ผลพวงจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น และความแข็งแกร่งของตลาดข้าวสาลี ซึ่งได้อานิสงส์จากความกังวลเรื่องสภาพอากาศทั่วโลก รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดที่ยังคงดำเนินอยู่ในแถบทะเลดำ ซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของโลก
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐอาจเป็นอุปสรรคต่อธัญพืชของสหรัฐฯ เนื่องจากทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นในสายตาผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ เทรดเดอร์ธัญพืชกำลังจับตารายงานอุปสงค์และอุปทานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ (11 ต.ค.)
ดอน รูส ประธานบริษัท U.S. Commodities ให้ความเห็นว่า "ตอนนี้ตลาดกำลังรอลุ้นรายงานผลผลิตทางการเกษตร พร้อมกับจับตาดูว่าสภาพอากาศในอเมริกาใต้จะเปลี่ยนแปลงไปตามที่คาดการณ์หรือไม่"
"ที่ผ่านมาบราซิลแห้งแล้งตามฤดูกาล แต่ดูเหมือนว่าหน้าฝนคงมาเยือนในไม่ช้านี้" รูสกล่าวเสริม
ทั้งตลาดถั่วเหลืองและข้าวโพดยังคงถูกกดดันจากผลผลิตที่ทะลักเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฤดูเก็บเกี่ยวกำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก โดยคาดว่าจะได้ปริมาณผลผลิตทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
จากการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ คาดว่า ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (6 ต.ค.) เกษตรกรสหรัฐฯ น่าจะเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองไปแล้วราว 44% และข้าวโพดประมาณ 34% ขณะที่คุณภาพของผลผลิตโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี
ด้านราคาข้าวสาลีปรับตัวขึ้น เนื่องจากความกังวลเรื่องสภาพอากาศแห้งแล้งในหลายพื้นที่เพาะปลูกสำคัญ ทั้งในเขตเพลนส์ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ และแถบภูมิภาคทะเลดำ
ทั้งข้าวโพดและข้าวสาลีต่างได้แรงหนุนจากความวิตกกังวลเรื่องการขนส่งในทะเลดำที่อาจสะดุด หลังมีรายงานว่าเรือบรรทุกธัญพืชถูกขีปนาวุธรัสเซียยิงถล่ม
ราคาข้าวสาลีรัสเซียที่ถูกกว่า ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการส่งออกของสหรัฐฯ ที่ต้องดิ้นรนแข่งขันกับธัญพืชราคาถูกจากประเทศคู่แข่ง