ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (21 ต.ค.) ราคาสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น ซึ่งรายงานของนักวิเคราะห์ระบุว่า เนื่องจากราคาธัญพืชที่ตกต่ำกระตุ้นให้เกิดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามา
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.75 เซนต์ หรือ +1.17% ปิดที่ 4.0950 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.50 เซนต์ หรือ -0.09% ปิดที่ 5.7225 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.00 เซนต์ หรือ +1.13% ปิดที่ 9.8100 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นนี้ช่วยบรรเทาความกดดันให้กับผู้ค้าธัญพืชในสหรัฐฯ ที่กำลังประสบปัญหาในการจำหน่ายผลผลิตปริมาณมหาศาลของสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะอุปทานล้นตลาดทั่วโลก ราคาซบเซา และปัญหาการขนส่งทางแม่น้ำภายในประเทศ
ส่วนราคาสัญญาข้าวสาลีแกว่งตัวขึ้นลง โดยได้อานิสงส์จากราคาข้าวโพดที่ปรับขึ้น รวมถึงความกังวลที่ยังคงค้างคาเกี่ยวกับภัยแล้งในแหล่งปลูกข้าวสาลีที่สำคัญ และมาตรการจำกัดการส่งออกของรัสเซีย
ในช่วงเช้าวันจันทร์ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ยืนยันการขายถั่วเหลืองรวม 380,000 ตันให้กับประเทศผู้ซื้อที่ไม่เปิดเผยชื่อ
นอกจากนี้ USDA ยังยืนยันว่ามีการขายข้าวโพดอีก 500,000 ตันให้กับเม็กซิโก เกาหลีใต้ และประเทศอื่น ๆ ที่ไม่เปิดเผยชื่อ สำหรับปีการตลาด 2567/68
ไบรอัน บาสติง นักวิเคราะห์จากบริษัท Advance Trading กล่าวว่า "ยอดขายข้าวโพดและถั่วเหลืองช่วงนี้น่าพอใจมาก เราเห็นผู้ซื้อปลายทางคว้าโอกาสช่วงราคาถูก และตอนนี้สหรัฐฯ อยู่ในจุดที่ได้เปรียบมากที่จะเป็นผู้ส่งออกหลักในตลาดโลก"
ทั้งนี้ เกษตรกรสหรัฐฯ กำลังเร่งเก็บเกี่ยวข้าวโพดและถั่วเหลืองที่ให้ผลผลิตมากที่สุดเป็นประวัติการณ์สองรายการด้วยความเร็วสูงสุดในรอบหลายปี จนทำให้กำลังคนและพื้นที่เก็บผลผลิตแทบรับไม่ไหว
ผลผลิตที่ล้นหลามนี้ รวมถึงการคาดการณ์ว่าบราซิลจะมีผลผลิตถั่วเหลืองจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาสัญญาถั่วเหลืองยังคงถูกกดดันอยู่
นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ฝนที่ตกในพื้นที่ข้าวสาลีที่แห้งผากทางตอนใต้ของรัสเซียและตอนกลางของสหรัฐฯ จะช่วยคลายความกังวลเรื่องความแห้งแล้งลงได้บ้าง แต่ภัยแล้งก็ยังคงเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงอยู่
เทรดเดอร์เผยว่า ความสับสนในตลาดเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการส่งออกของรัฐบาลรัสเซีย ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาข้าวสาลีเอาไว้