ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (28 ต.ค.) สัญญาธัญพืชปิดลบทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลี หลังจากมีรายงานว่าฝนตกในพื้นที่เพาะปลูกเขตเกรตเพลนส์ของสหรัฐฯ ช่วยคลายกังวลเรื่องภัยแล้ง ประกอบกับราคาส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียที่เริ่มนิ่ง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.50 เซนต์ หรือ -1.08% ปิดที่ 4.1075 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.25 เซนต์ หรือ -1.80% ปิดที่ 5.5875 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 11.50 เซนต์ หรือ -1.15% ปิดที่ 9.8600 ดอลลาร์/บุชเชล
Commodity Weather Group รายงานว่า พื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีเมล็ดแข็ง Hard Red Winter (HRW) ของสหรัฐฯ จะมีฝนตกมากขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาความแห้งแล้งในช่วง 10 วันข้างหน้าและในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป
ไมค์ ซูโซโล ประธานบริษัท Global Commodity Analytics กล่าวว่า "ผู้ค้าข้าวสาลีเริ่มมองว่าราคาข้าวสาลีรัสเซียน่าจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว ? และมีแนวโน้มที่ราคาจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้"
ตามรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาในรัสเซีย ราคาข้าวสาลีได้ปรับตัวลดลง เนื่องจากสภาพอากาศในแหล่งเพาะปลูกเอื้ออำนวยมากขึ้น
ดมิทรี รีลโก หัวหน้าบริษัทที่ปรึกษา IKAR เปิดเผยว่า ราคาข้าวสาลีรัสเซียชนิดโปรตีน 12.5% ที่จะส่งมอบในเดือนพ.ย. โดยคิดราคาแบบฟรีออนบอร์ด (FOB-ราคาส่งถึงระวางเรือ) อยู่ที่ 232 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน ณ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลง 2 ดอลลาร์จากราคาก่อนหน้า
ด้านราคาสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ประกอบกับมีแรงกดดันจากฤดูเก็บเกี่ยวที่ทำให้ทั้งราคาถั่วเหลืองและข้าวโพดลดลงไปด้วย
ซูโซโลอธิบายว่า การอ่อนตัวของตลาดถั่วเหลืองครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นผลพวงมาจากตลาดพลังงานที่ร่วงลงในวันจันทร์ โดยราคาน้ำมันปรับลดลงถึง 4 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่อิสราเอลโจมตีตอบโต้อิหร่านในช่วงสุดสัปดาห์ แต่การโจมตีนั้นไม่ได้กระทบถึงแหล่งผลิตน้ำมันและโรงงานนิวเคลียร์ ทำให้การส่งน้ำมันยังคงเป็นไปตามปกติ
นอกจากนี้ ราคาข้าวโพดก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. โดยผลโพลล์ล่าสุดในรัฐสมรภูมิหรือ Swing state ชี้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีคะแนนสูสีกันมาก