ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (4 พ.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวโพด
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.00 เซนต์ หรือ +0.48% ปิดที่ 4.1650 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ หรือ +0.13% ปิดที่ 5.6875 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.50 เซนต์ หรือ +0.35% ปิดที่ 9.9725 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ยืนยันว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์
ปริมาณการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นเพราะสองปัจจัย คือ ราคาพืชผลที่ถูกลง และผลผลิตในสหรัฐฯ ที่ล้นตลาด นอกจากนี้ ผู้ค้าธัญพืชยังเร่งส่งออกถั่วเหลืองที่มีผลผลิตสูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากกังวลว่าอาจเกิดความตึงเครียดทางการค้ากับจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุด
หลังจากที่มีการประกาศยอดขายรายวันออกมาอย่างต่อเนื่อง เหล่าเทรดเดอร์ต่างจับตาดูว่า USDA จะปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ความต้องการสินค้าเกษตรส่งออกของสหรัฐฯ ในรายงานพืชผลประจำเดือนที่จะเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ (8 พ.ย.) หรือไม่
บริษัท StoneX ซึ่งเป็นนายหน้าซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ ได้ปรับลดประมาณการผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ก่อนที่ USDA จะออกรายงานอย่างเป็นทางการ
เทรดเดอร์บางรายมองว่า แม้ราคาสัญญาถั่วเหลืองจะปรับตัวสูงขึ้น แต่นี่กลับเป็นจังหวะดีในการขายทำกำไร เนื่องจากตลาดยังมีสินค้าล้นตลาดอยู่มาก นอกจากนี้ พวกเขายังแสดงความกังวลว่า หากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันอังคารนี้ (5 พ.ย.) อาจส่งผลให้จีนลดการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์จาก Argus ระบุในรายงานว่า "เช่นเดียวกับตลาดการเงินอื่น ๆ ทั้งหมด ตลาดธัญพืชสหรัฐฯ กำลังจับตาดูผลการเลือกตั้งปธน.อย่างใกล้ชิด โดยประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากคือความกังวลว่าอาจเกิด 'สงครามการค้า' ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนขึ้นมาอีกครั้ง"
จากรายงานของ USDA ที่เผยแพร่หลังตลาดธัญพืชปิดทำการระบุว่าคุณภาพของข้าวสาลีฤดูหนาวในสหรัฐฯ อยู่ในระดับดีถึงดีเยี่ยม 41% ซึ่งแม้จะดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถือว่าต่ำเป็นอันดับ 2 เป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของทุกปี
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเมื่อมีฝนตกลงมา ช่วยคลายความกังวลเรื่องภัยแล้งที่อาจกระทบต่อต้นข้าวสาลีที่เพิ่งปลูกใหม่ในเขตเพลนส์