ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (13 พ.ย.) สัญญาธัญพืชปิดร่วงทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลี
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.00 เซนต์ หรือ -0.47% ปิดที่ 4.2650 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 11.25 เซนต์ หรือ -2.04% ปิดที่ 5.4100 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.75 เซนต์ หรือ -0.27% ปิดที่ 10.0775 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาข้าวสาลีร่วงลงอย่างหนัก ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น สืบเนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจไม่ได้มากเท่าที่ตลาดประเมินไว้ก่อนหน้านี้
ด้านราคาสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปรับตัวลง หลังนักลงทุนผิดหวังต่อมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลต่อความต้องการนำเข้าของจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ซื้อรายใหญ่ของโลก
ไมค์ ซูโซโล ประธานบริษัท Global Commodity Analytics เปิดเผยว่า การพุ่งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีระหว่างช่วงการซื้อขาย เป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ราคาสัญญาข้าวสาลีดิ่งลงอย่างหนัก
"การแตะจุดสูงสุดในรอบปีของดัชนีดอลลาร์ ประกอบกับการอ่อนค่าของเงินรูเบิลเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาข้าวสาลีในตลาดร่วงลงอย่างหนัก" ซูโซโลระบุ
ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อวันพุธ ส่งสัญญาณว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าอาจมีไม่มากเท่าที่คาด ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเพิ่มขึ้น
เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้พืชผลของสหรัฐฯ มีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศที่ถือครองสกุลเงินอื่น ขณะที่รูเบิลที่อ่อนค่าช่วยเพิ่มอุปสงค์ข้าวสาลีจากรัสเซีย ผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เปิดเผยในวันอังคาร (12 พ.ย.) ว่า สถานการณ์ข้าวสาลีฤดูหนาวปรับตัวดีขึ้น หลังพื้นที่เพาะปลูกเกรตเพลนส์ได้รับความชื้นที่จำเป็น ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการผลิตของประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลีอันดับ 5 ของโลก