ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (27 พ.ย.) ราคาข้าวสาลีร่วงลง หลังจากที่ราคาได้พุ่งขึ้นตามปัจจัยทางเทคนิคในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับสภาพการเพาะปลูกที่เอื้ออำนวยในแหล่งผลิตสำคัญทั่วโลก
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.25 เซนต์ หรือ -1.01% ปิดที่ 4.1575 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 9.50 เซนต์ หรือ -1.70% ปิดที่ 5.4850 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ +0.53% ปิดที่ 9.8875 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฝนตกในแถบทะเลดำช่วยคลายกังวลเรื่องภัยแล้งในเขตปลูกข้าวสาลีสำคัญ ส่วนที่ยุโรปตะวันตก สภาพอากาศแห้งในเดือนนี้เอื้อให้ชาวนาสามารถเร่งหว่านเมล็ดเพาะปลูก
นอกจากนี้ ผลผลิตที่คาดว่าจะออกมามากในฤดูเก็บเกี่ยวที่ออสเตรเลียและอาร์เจนตินาจะช่วยทดแทนได้ หากข้าวสาลีจากรัสเซียและยูเครนเริ่มขาดตลาด
ในทางตรงกันข้าม ราคาถั่วเหลืองขยับสูงขึ้นเล็กน้อย อันเป็นผลจากแรงซื้อทางเทคนิคและการปรับพอร์ตของนักลงทุนก่อนถึงวันขอบคุณพระเจ้าในวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.)
ฝนที่ตกต้องตามฤดูกาลในบราซิลและอาร์เจนตินาตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วยเสริมแนวโน้มผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองในฤดูเก็บเกี่ยวถัดไปให้สดใส พร้อมทั้งพยุงราคาให้เคลื่อนไหวในกรอบจำกัด
ทั้งนี้ เหล่าเทรดเดอร์ยังคงจับตาดูท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ขู่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้าสำคัญเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.นี้
ทรัมป์ประกาศเมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.) ว่า จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% พร้อมกับเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้ทางภาษีจากประเทศเหล่านี้