ผู้พิพากษาศาลฎีกาของบราซิลมีคำสั่งวานนี้ (26 ธ.ค.) ให้ระงับกฎหมายของรัฐมาตูโกรซู ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถั่วเหลืองอันดับหนึ่งของประเทศ โดยกฎหมายดังกล่าวจะยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่เข้าร่วมข้อตกลงไม่ซื้อถั่วเหลืองจากพื้นที่ที่บุกรุกทำลายป่าแอมะซอน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำสั่งระงับนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยสุดท้าย
"ข้อตกลงระงับการซื้อถั่วเหลืองจากพื้นที่ป่าแอมะซอน" (Amazon soy moratorium) ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิทยาศาสตร์และนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างมาก ข้อตกลงนี้เป็นการลงนามร่วมกันโดยสมัครใจจากบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกในช่วงปลายทศวรรษที่ 2540 โดยบริษัทเหล่านี้ให้คำมั่นว่าจะไม่ซื้อถั่วเหลืองจากไร่ในเขตป่าฝนแอมะซอนที่ถูกแผ้วถางหลังปี 2551
แม้กฎหมายป่าไม้ของบราซิล ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดในโลก จะอนุญาตให้เจ้าของที่ดินในเขตป่าแอมะซอนสามารถแผ้วถางพื้นที่ได้สูงสุดถึง 20% ของที่ดิน แต่การบุกรุกทำลายป่าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 (ปีพ.ศ. 2543-2045) ทำให้หลายบริษัทกังวลว่าจะถูกคว่ำบาตรในวงกว้าง จึงเรียกร้องให้มีการดำเนินการเพื่อปกป้องป่า
ผู้พิพากษาฟลาวิโอ ดิโน ระบุว่า กฎหมายของรัฐมาตูโกรซูนี้ "ดูเหมือนจะขัดต่อหลักการประกอบธุรกิจเสรี" เพราะสร้างความไม่เท่าเทียมให้กับบริษัทที่สมัครใจปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว และยังชี้ว่ากฎหมายนี้ "มีแนวโน้มที่จะเป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยใช้กฎเกณฑ์ทางภาษีเป็นเครื่องมือในการลงโทษ"
ด้านผู้ว่าการรัฐมาตูโกรซู เมาโร เมนเดส ประกาศผ่านวิดีโอบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ทางรัฐจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล และหากไม่เป็นผล จะมีมาตรการอื่น ๆ ตามมา
"เรายอมรับไม่ได้ที่บริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ จะเข้ามาในบราซิลและตั้งเงื่อนไขที่ขัดต่อกฎหมายของบราซิล" เมนเดสกล่าว
ก่อนหน้านี้ อโปรโซจา-เอ็มที (Aprosoja-MT) ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในรัฐมาตูโกรซู ได้ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าของบราซิล (CADE) ขอให้ยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นการ "ผูกขาดตลาดการซื้อขาย" และส่งผลเสียต่อเกษตรกรที่ปฏิบัติตามกฎหมายป่าไม้อย่างเคร่งครัด