ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (15 ม.ค.) สัญญาข้าวโพดพุ่งขึ้นใกล้แตะจุดสูงสุดในรอบปี หลังนักลงทุนยังกังวลเรื่องภาวะอุปทานตึงตัวที่อาจเกิดขึ้น ตามรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ปรับลดประมาณการผลผลิตและสต๊อกข้าวโพดปี 2567 ประกอบกับความกังวลเรื่องสภาพอากาศในอาร์เจนตินา
ขณะเดียวกัน สัญญาถั่วเหลืองลดลงจากแรงขายทำกำไรหลังพุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันก่อน และหลังจากที่ข้อมูลการบดถั่วเหลืองที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในสหรัฐฯ สะท้อนปริมาณกากถั่วเหลืองล้นตลาด ส่วนสัญญาข้าวสาลีปิดบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.25 เซนต์ หรือ +0.90% ปิดที่ 4.7875 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ หรือ +0.14% ปิดที่ 5.4700 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.75 เซนต์ หรือ -0.45% ปิดที่ 10.4275 ดอลลาร์/บุชเชล
ดอน รูส ประธาน U.S. Commodities บริษัทวิเคราะห์ในไอโอวา ระบุว่า ตลาดจับตาสถานการณ์ภัยแล้งในอาร์เจนตินาอย่างใกล้ชิด แม้มีพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ภัยแล้งอาจกลับมาอีกครั้งปลายเดือนนี้ ส่งผลให้ราคาข้าวโพดยังมีแรงหนุน เนื่องจากอาร์เจนตินาเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองอันดับ 1
นอกจากนี้ ตลาดยังอยู่ระหว่างประเมินรายงานของ USDA ที่ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตและสต๊อกทั้งข้าวโพดและถั่วเหลือง โดยราคาอาจปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนกว่าผู้ผลิตจะยอมขายมากขึ้น หรือความต้องการชะลอตัว
ด้านราคาถั่วเหลืองถูกกดดันจากการเริ่มต้นฤดูเก็บเกี่ยวในบราซิล ที่คาดว่าจะทำผลผลิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับยอดบดถั่วเหลืองในสหรัฐฯ เดือนธ.ค.ที่ทำสถิติใหม่ 206.6 ล้านบุชเชล สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ และเพิ่มขึ้น 5.8% จากปีก่อน
ส่วนราคาข้าวสาลีแม้จะปิดบวก แต่การฟื้นตัวยังถูกกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก ท่ามกลางความต้องการส่งออกที่ซบเซา