ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (27 ม.ค.) สัญญาธัญพืชปิดลบทั้งกระดาน ขณะที่เทรดเดอร์ทยอยลดความเสี่ยงในพอร์ตของตัวเอง เป็นเพราะกังวลว่ารัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4.50 เซนต์ หรือ -0.92% ปิดที่ 4.8200 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 8.50 เซนต์ หรือ -1.56% ปิดที่ 5.3550 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 10.75 เซนต์ หรือ -1.02% ปิดที่ 10.4500 ดอลลาร์/บุชเชล
แองจี เซตเซอร์ หุ้นส่วนบริษัท Consus Ag Consulting เล่าว่า หลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนในตลาดต่างโล่งอกที่ทรัมป์ไม่ได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ อย่างจีนและเม็กซิโกในทันที
อย่างไรก็ตาม เซตเซอร์กล่าวว่า ความกังวลเรื่องมาตรการภาษีที่เขาเสนอไว้อาจกลายเป็นชนวนสงครามการค้าครั้งใหม่นั้น กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะจากกรณีที่ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันเสาร์นี้ (1 ก.พ.)
แต่เทรดเดอร์บางรายก็ยังมองในแง่ดีว่าเรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น หลังจากที่ทรัมป์ล้มเลิกการขู่ขึ้นภาษีโคลอมเบีย เมื่อโคลอมเบียสามารถตกลงกับสหรัฐฯ เรื่องเที่ยวบินส่งผู้อพยพกลับประเทศได้เมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดธัญพืชและพืชน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันพุธนี้ (29 ม.ค.) ด้วย เพราะจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลกมีแนวโน้มจะชะลอการซื้อในช่วงเทศกาลนี้
ราคาถั่วเหลืองยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม หลังอาร์เจนตินาซึ่งเป็นผู้ผลิตพืชน้ำมันรายใหญ่ได้ประกาศลดภาษีส่งออกชั่วคราวสำหรับพืชผลต่าง ๆ รวมถึงถั่วเหลือง โดยมาตรการนี้จะมีผลไปจนถึงเดือนมิ.ย.
เซตเซอร์บอกว่า ราคาข้าวสาลีลดลงเพราะความต้องการซื้อมีน้อย แต่ไม่ได้ลดลงมากนัก เนื่องจากมีความกังวลว่า อากาศหนาวเย็นอาจทำให้ข้าวสาลีที่ปลูกในช่วงฤดูหนาวตามแหล่งเพาะปลูกของสหรัฐฯ เสียหายถึง 15%