ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (4 ก.พ.) สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเรื่องข้อพิพาททางการค้าที่อาจกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ นั้นเริ่มคลี่คลายลง ด้านราคาสัญญาข้าวสาลีก็ขยับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดนับจากเดือนพ.ย. ขณะที่ราคาข้าวโพดยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดของเดือนต.ค. 2566 ที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.75 เซนต์ หรือ +1.18% ปิดที่ 4.9450 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 10.25 เซนต์ หรือ +1.81% ปิดที่ 5.7700 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 16.75 เซนต์ หรือ +1.58% ปิดที่ 10.7500 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา เทรดเดอร์กังวลว่า การขึ้นภาษีนำเข้ากับแคนาดา เม็กซิโก และจีน อาจทำให้ความต้องการสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ลดลง เพราะทั้งสามประเทศนี้เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ (3 ก.พ.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้ากับเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีกหนึ่งเดือน ส่วนจีนก็ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพียงบางรายการเท่านั้นเมื่อวันอังคาร โดยไม่รวมถั่วเหลือง
เทรดเดอร์บางรายคาดว่า จีนซึ่งเป็นประเทศนำเข้าถั่วเหลืองมากที่สุดในโลก อาจจะเพิ่มปริมาณการซื้อถั่วเหลืองมากขึ้นในระหว่างการเจรจาการค้า
"ภาพรวมตอนนี้คือจีนคงไม่ได้จริงจังกับสงครามการค้ามากนัก หรือไม่ก็น่าจะหาทางออกกันได้เร็ว ๆ นี้" เท็ด ไซฟรีด หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของ Zaner Ag Hedge กล่าว
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT กลับมาคึกคักในวันจันทร์ หลังสหรัฐฯ ประกาศระงับการเก็บภาษีนำเข้ากับเม็กซิโก ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ มากที่สุด ส่วนราคาสัญญาธัญพืชที่พุ่งขึ้นในวันอังคารนั้น เทรดเดอร์ระบุว่าเป็นผลมาจากการเข้าซื้อตามปัจจัยทางเทคนิค
เทรดเดอร์ระบุว่า สภาพอากาศที่เป็นปัญหาในอเมริกาใต้ ทั้งภัยแล้งในอาร์เจนตินาและฝนที่ตกมากเกินไปในบราซิล ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาข้าวโพดและถั่วเหลือง นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงก็มีส่วนช่วยดันราคาขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะทำให้สินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มีความน่าสนใจมากขึ้นในสายตาผู้ซื้อทั่วโลก
อนึ่ง กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ยืนยันว่าได้มีการขายข้าวโพดสหรัฐฯ ให้เกาหลีใต้แล้ว 132,000 เมตริกตัน