ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (12 ก.พ.) ราคาสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลง หลังจากรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เมื่อวันอังคาร (11 ก.พ.) ระบุว่า สต๊อกถั่วเหลืองในประเทศมีปริมาณสูงเกินคาด อีกทั้งยังมีความกังวลที่จีนยังคงชะลอการนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ด้านราคาข้าวโพดปรับตัวขึ้น เนื่องจากความต้องการในตลาดยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่รายงานอุปสงค์-อุปทานของ USDA ชี้ว่า สต๊อกข้าวโพดทั่วโลกตึงตัวขึ้น ส่วนราคาข้าวสาลีปรับตัวลงท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 6.25 เซนต์ หรือ +1.29% ปิดที่ 4.9025 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 2.75 เซนต์ หรือ -0.48% ปิดที่ 5.7425 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 15.75 เซนต์ หรือ -1.51% ปิดที่ 10.2775 ดอลลาร์/บุชเชล
ในรายงานประจำเดือน USDA ยังคงตัวเลขประมาณการสต๊อกถั่วเหลืองและข้าวโพดเมื่อสิ้นฤดูกาลไว้เท่าเดิม ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการปรับลดลง พร้อมกันนี้ USDA ได้ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองของอาร์เจนตินา เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งส่งผลกระทบต่อพืชผล
อย่างไรก็ดี ปริมาณถั่วเหลืองในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง เพราะบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด มีผลผลิตออกมามาก
"ตอนนี้ไม่มีปัจจัยอะไรที่จะดันราคาให้ขึ้นได้เลย" แรนดี เพลซ นักวิเคราะห์จาก Hightower Report ให้ความเห็น
ด้านราคาข้าวโพดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจาก USDA รายงานว่าสต๊อกข้าวโพด ณ สิ้นฤดูกาลทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ตลาดคาดการณ์ไว้
ปริมาณการผลิตข้าวโพดถือเป็นประเด็นสำคัญในขณะนี้ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าปริมาณสำรองทั่วโลกในปี 2567-2568 จะลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี อันเป็นผลมาจากความต้องการเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับผลผลิตในสหรัฐฯ ปีที่ผ่านมาต่ำกว่าที่ประเมินไว้
ด้านความต้องการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาสัญญาข้าวโพด โดย USDA ได้ยืนยันการขายข้าวโพดให้กับภาคเอกชนในเม็กซิโกจำนวน 365,000 เมตริกตันเมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.) และอีก 130,320 ตันไปยังประเทศปลายทางที่ไม่ได้ระบุเมื่อวันพุธ