ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (18 ก.พ.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน โดยราคาสัญญาข้าวโพดพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่ระดับเกิน 5 ดอลลาร์/บุชเชล โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าเป็นผลมาจากอุปสงค์การส่งออกของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง และการคาดการณ์ว่าสต๊อกสินค้าคงคลังอาจตึงตัว
ด้านราคาสัญญาข้าวสาลีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. ขณะที่ราคาสัญญาถั่วเหลืองก็ปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางราคาข้าวโพด
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.75 เซนต์ หรือ +1.16% ปิดที่ 5.020 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.75 เซนต์ หรือ +0.79% ปิดที่ 6.0475 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.50 เซนต์ หรือ +0.24% ปิดที่ 10.3850 ดอลลาร์/บุชเชล
อาร์ลัน ซูเดอร์มาน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ของโบรกเกอร์ StoneX กล่าวว่า ความต้องการข้าวโพดสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาวนี้ก็ตาม
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) รายงานว่า มีการตรวจสอบข้าวโพดเพื่อการส่งออก 1.6 ล้านเมตริกตันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 975,000-1.4 ล้านเมตริกตัน
อีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาสัญญาธัญพืชคือความโล่งใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยังไม่ได้ใช้มาตรการภาษีนำเข้าที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าสินค้าเกษตร โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า การเจรจาเรื่องภาษีการค้าอาจทำให้ประเทศผู้นำเข้าบางรายซื้อธัญพืชและถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
"การผลักดันเรื่องภาษีนำเข้าจะเป็นไปในแนวทางที่ว่า 'ซื้อสินค้าอเมริกา และซื้อธัญพืชเพิ่ม' " ดอน รูส ประธานบริษัท U.S. Commodities กล่าว
สต๊อกข้าวโพดคาดว่าจะตึงตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า แต่สต๊อกถั่วเหลืองมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณมาก
ตามข้อมูลของสมาคมผู้แปรรูปเมล็ดพืชน้ำมันแห่งชาติ ผู้แปรรูปถั่วเหลืองในสหรัฐฯ บดถั่วเหลืองในเดือนม.ค.ในปริมาณมากเป็นอันดับสองในประวัติการณ์
ส่วนที่อาร์เจนตินา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองและข้าวโพดรายใหญ่ ฝนที่ตกลงมาในช่วงสุดสัปดาห์ช่วยป้องกันไม่ให้พืชผลที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเสียหายไปมากกว่านี้ ตามรายงานของตลาดหลักทรัพย์ธัญพืชโรซาริโอ (Rosario Grains Exchange)
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เทรดเดอร์ยังคงจับตาดูสภาพอากาศในรัสเซียและสหรัฐฯ เพราะอุณหภูมิที่หนาวเย็นอาจทำให้พืชผลข้าวสาลีเสียหายได้