ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (3 มี.ค.) สัญญาธัญพืชปิดร่วงลงทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวโพดซึ่งดิ่งลงเกือบ 3% ท่ามกลางความกังวลเรื่องความตึงเครียดทางการค้าและผลผลิตอเมริกาใต้ที่อุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์เร่งเทขายสถานะซื้อสุทธิจำนวนมาก
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 13.25 เซนต์ หรือ -2.82% ปิดที่ 4.5625 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 8.00 เซนต์ หรือ -1.44% ปิดที่ 5.4775 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 14.25 เซนต์ หรือ -1.39% ปิดที่ 10.1150 ดอลลาร์/บุชเชล
ความกดดันในตลาดเพิ่มขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่าจะเก็บภาษี 25% กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในวันอังคารนี้ (4 มี.ค.) อย่างแน่นอน ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าในอเมริกาเหนือ ขณะที่จีนซึ่งเป็นผู้ซื้อถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเตรียมมาตรการตอบโต้ทางการค้ากับสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ตามรายงานของโกลบอลไทม์ส (Global Times) ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อีกปัจจัยกดดันคือ การที่บราซิลเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองไปแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง และคาดว่าจะมีผลผลิตสูงเป็นประวัติการณ์
"ผลผลิต (จากอเมริกาใต้) จะมีปริมาณล้นตลาดโลกไม่ว่าจะมีปัญหาเรื่องผลผลิตในบางพื้นที่หรือไม่ก็ตาม และการค้าก็กำลังสะท้อนถึงปัญหาด้านการส่งออกอยู่ในขณะนี้ การพูดคุยเรื่องภาษีที่ยังคงยืดเยื้อยิ่งเติมเชื้อไฟให้กับสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้ว" แมตต์ เซลเลอร์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ StoneX ระบุ
แม้มีข่าวยืนยันว่ากระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ได้ขายข้าวโพด 114,000 เมตริกตันให้เม็กซิโก แต่เทรดเดอร์กลับไม่ได้ให้ความสำคัญ เช่นเดียวกับข่าวที่ออสเตรเลียปรับเพิ่มประมาณการผลผลิตข้าวสาลีปี 2567/68 เป็น 34.1 ล้านเมตริกตัน เพิ่มขึ้น 2.2 ล้านเมตริกตันจากตัวเลขเดือนธ.ค. ยิ่งเสริมความรู้สึกด้านลบในตลาด