กรมศุลกากรจีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) ว่า จีนได้ระงับใบอนุญาตนำเข้าถั่วเหลืองของบริษัทสหรัฐฯ 3 แห่ง และหยุดการนำเข้าไม้ซุงจากสหรัฐฯ ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเป็นการเพิ่มระดับการตอบโต้ต่อการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมของสหรัฐฯ ที่มีต่อสินค้าจีน
บริษัทสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการระงับใบอนุญาต ได้แก่ สหกรณ์เกษตรกร "ซีเอชเอส" (CHS Inc), ผู้ส่งออกธัญพืชระดับโลก "หลุยส์ เดรย์ฟัส คอมพานี เกรนส์ เมอร์แชนไดซิง" (Louis Dreyfus Company Grains Merchandising LLC) และผู้ดำเนินการสถานีขนส่งธัญพืชเพื่อส่งออก "อีจีที" (EGT)
กรมศุลกากรจีนระบุว่า สาเหตุของการระงับเนื่องจากพบเชื้อราเออร์กอต (ergot) และสารเคลือบเมล็ดในถั่วเหลืองนำเข้าจากสหรัฐฯ ขณะที่การระงับการนำเข้าไม้ซุงสหรัฐฯ มาจากการตรวจพบหนอน เชื้อราแอสเพอร์จิลลัส (aspergillus) และศัตรูพืชอื่น ๆ
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน จีนยังได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าครอบคลุมสินค้าเกษตรและอาหารของสหรัฐฯ มูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงถั่วเหลือง ข้าวสาลี เนื้อสัตว์ และฝ้าย
การดำเนินการของจีนเป็นการตอบโต้การตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% จากจีน มีผลบังคับใช้วันอังคาร ส่งผลให้ภาษีนำเข้าสะสมอยู่ที่ 20% โดยทำเนียบขาวอ้างว่าเพื่อตอบโต้จีนไม่จัดการปัญหายาเสพติดที่ลักลอบเข้าสู่สหรัฐฯ
ทั้งนี้ การระงับไม้ซุงสหรัฐฯ เป็นการตอบโต้โดยตรงต่อคำสั่งของทรัมป์เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ให้มีการสอบสวนทางการค้าเกี่ยวกับไม้ซุงนำเข้า โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่ากำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% กับไม้ซุงและผลิตภัณฑ์จากป่า
ข้อมูลจากศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า จีนเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ไม้รายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นตลาดส่งออกอันดับ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์จากป่าของสหรัฐฯ โดยในปี 2567 จีนนำเข้าไม้ซุงและผลิตภัณฑ์ไม้ทั้งเปลือกอื่น ๆ จากสหรัฐฯ มูลค่าประมาณ 850 ล้านดอลลาร์