ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (7 มี.ค.) สัญญาธัญพืชปิดผันผวน โดยสัญญาข้าวโพดปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สาม ขานรับข่าวสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากเม็กซิโกและแคนาดา ส่วนสัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวโพดและถั่วเหลืองรายใหญ่ยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.25 เซนต์ หรือ +1.13% ปิดที่ 4.6925 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 2.75 เซนต์ หรือ -0.50% ปิดที่ 5.5125 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 2.25 เซนต์ หรือ -0.22% ปิดที่ 10.2500 ดอลลาร์/บุชเชล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนเวลาการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% ออกไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะมีผลกับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA)
ข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนสัญญาข้าวโพดปิดในแดนบวก อย่างไรก็ดี การที่สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนนั้น ได้ฉุดสัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองปิดในแดนลบ นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าปธน.ทรัมป์จะเดินหน้าบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เม.ย.
ข้อมูลจากสำนักงานศุลกรกาจีนระบุว่า จีนนำเข้าถั่วเหลืองในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ในปริมาณ 13.61 ล้านเมตริกตัน เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การนำเข้าถั่วเหลืองของจีนในเดือนมี.ค.อาจจะชะลอตัวลง หากสงครามการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุดจีนประกาศตอบโต้ด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงถั่วเหลือง