ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (14 มี.ค.) สัญญาข้าวโพดและข้าวสาลีปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ธัญพืช ส่วนสัญญาถั่วเหลืองปิดบวกเนื่องจากแรงช้อนซื้อ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 6.75 เซนต์ หรือ -1.45% ปิดที่ 4.5850 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 5.50 เซนต์ หรือ -0.98% ปิดที่ 5.5700 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.20 เซนต์ หรือ +0.52% ปิดที่ 10.1600 ดอลลาร์/บุชเชล
แดนบาส ประธานบริษัท AgResource กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาด CBOT เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าได้ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และต่างก็จับตาอย่างใกล้ชิดว่าสงครามการค้าครั้งนี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่
รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตรา 25% เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ส่งผลให้สหภาพยุโรป (EU) และแคนาดาตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเหตุให้ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีกและเตือนว่าจะใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในเดือนหน้า
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองอาจจะได้รับปัจจัยบวกจากการที่อาร์เจนตินาปรับลดประมาณการการผลิตข้าวโพดและถั่วเหลือง อย่างไรก็ดี คาดว่าผลผลิตถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นในบราซิลจะสกัดแรงบวกของราคาถั่วเหลือง