ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (17 มี.ค.) สัญญาข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้น เหตุนักลงทุนกังวลผลกระทบจากพายุที่พัดถล่มพื้นที่เพาะปลูกในสหรัฐฯ ขณะที่รัสเซียลดเป้าส่งออก เปิดโอกาสให้สหรัฐฯ ขยายตลาดมากขึ้น ด้านราคาถั่วเหลืองปรับตัวลง หลังตัวเลขการสกัดน้ำมันต่ำกว่าที่คาด ส่วนราคาข้าวโพดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.50 เซนต์ หรือ +0.55% ปิดที่ 4.6100 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 11.50 เซนต์ หรือ +2.06% ปิดที่ 5.6850 ดอลลาร์/บุชเชล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 0.50 เซนต์ หรือ -0.05% ปิดที่ 10.1550 ดอลลาร์/บุชเชล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นอกจากนี้ ราคาสินค้าเกษตรยังได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคาในตลาดส่งออก
คาร์ล เซตเซอร์ หุ้นส่วนบริษัท Consus Ag Consulting เปิดเผยว่า พายุลมแรงและทอร์นาโดที่พัดถล่มภูมิภาคมิดเวสต์และเขตเพลนส์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจสร้างความเสียหายต่อผลผลิตข้าวสาลีในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมระบุว่า "ลมและฝุ่นที่รุนแรงขนาดนี้สามารถทำลายพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างหนัก"
ด้านบริษัทที่ปรึกษา Sovecon รายงานว่า การส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียในเดือนมี.ค.มีแนวโน้มลดลง หลังรัฐบาลออกมาตรการจำกัดการส่งออกเพื่อควบคุมราคาแป้งและขนมปังในประเทศ ซึ่งเซตเซอร์มองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อราคา เช่นเดียวกับยอดส่งออกของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งในสัปดาห์ก่อน
สำหรับราคาข้าวโพด เซตเซอร์ระบุว่า แม้ได้แรงหนุนจากยอดส่งออกที่ดี แต่ยังขาดปัจจัยบวกอื่น ๆ ที่จะดึงดูดให้กองทุนเข้าซื้อ ขณะที่ราคาถั่วเหลืองปรับตัวลงหลังสมาคมผู้แปรรูปเมล็ดพืชน้ำมันแห่งชาติ (NOPA) รายงานตัวเลขการสกัดน้ำมันเดือนก.พ.ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
แม้สำนักงานทั่วไปแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะประกาศ "แผนปฏิบัติการพิเศษ" เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 มี.ค.) ซึ่งรวมถึงมาตรการเพิ่มรายได้ประชาชนและการอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตร แต่ก็ไม่สามารถหนุนราคาถั่วเหลืองได้ ทั้งที่จีนเป็นผู้นำเข้าเมล็ดพืชน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก