ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันศุกร์ (21 มี.ค.) สัญญาธัญพืชปิดไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองปิดอ่อนแรงลง ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปิดเกือบทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาธัญพืชในช่วงสุดสัปดาห์ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 4.75 เซนต์ หรือ -1.01% ปิดที่ 4.6425 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.1 เซนต์ หรือ +0.18% ปิดที่ 5.5825 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 3.25 เซนต์ หรือ -0.32% ปิดที่ 10.0975 ดอลลาร์/บุชเชล
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและผลกระทบจากการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ ราคาธัญพืชยังปรับตัวลงก่อนที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ จะเปิดเผยรายงานสต็อกธัญพืชในวันที่ 31 มี.ค. รวมทั้งตัวเลขประมาณการการเพาะปลูกของเกษตรกรประจำปี 2568
การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ระดับ 104.089 เมื่อวันศุกร์
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นักลงทุนจับตาการเจรจาเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนซึ่งเป็นสองประเทศผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ โดยสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และรัสเซียได้พบปะกันในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อเดินหน้าเจรจาคลี่คลายความขัดแย้งในยูเครน