ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันจันทร์ (7 เม.ย.) สัญญาถั่วเหลืองและข้าวโพดปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากการซื้อขายแกว่งตัวอย่างรุนแรงตลอดวัน นักวิเคราะห์ชี้ว่าปัจจัยหลักมาจากความไม่แน่นอนเรื่องภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ-จีน และความเสี่ยงด้านสภาพอากาศในแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ขณะที่ราคาข้าวสาลีก็ปรับขึ้นเช่นกันจากพยากรณ์อากาศที่แห้งแล้ง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 4.25 เซนต์ หรือ +0.92% ปิดที่ 4.6450 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 7.50 เซนต์ หรือ +1.42% ปิดที่ 5.3650 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 6.00 เซนต์ หรือ +0.61% ปิดที่ระดับ 9.8300 ดอลลาร์/บุชเชล
ความผันผวนของตลาดส่วนใหญ่เป็นผลมาจากข่าวเกี่ยวกับมาตรการภาษีนำเข้าที่ยังสับสน ทั้งจากฝั่งรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ขู่จะเก็บภาษีเพิ่ม และภาษีตอบโต้จากจีน ตลาดดีดตัวขึ้นชั่วขณะจากรายงานข่าวว่าอาจมีการพักเก็บภาษีนำเข้า 90 วัน แต่ก็กลับมาลดลงอีกครั้งหลังทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว
Maxar บริษัทพยากรณ์อากาศ ระบุว่า ฝนที่ตกหนักทำให้การเพาะปลูกล่าช้าในแถบหุบเขาโอไฮโอและตอนเหนือของพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปีในสหรัฐฯ ขณะที่สภาพอากาศแห้งแล้งในบางพื้นที่ของบราซิลอาจสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตข้าวโพดรุ่น 2 (Safrinha)
ส่วนราคาข้าวสาลีได้รับแรงหนุนจากพยากรณ์ของ Maxar ที่คาดว่าจะมีฝนตกน้อยในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้ภาวะแห้งแล้งขยายวงกว้างขึ้นในแถบเซ็นทรัลและเซาเทิร์นเพลนส์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีที่สำคัญ