ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพุธ (9 เม.ย.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศชะลอการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศส่วนใหญ่ที่เคยประกาศไว้ นับเป็นการผ่อนคลายความกังวลเรื่องการค้า แม้ยังคงขึ้นภาษีกับจีนก็ตาม
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 5.00 เซนต์ หรือ +1.07% ปิดที่ 4.7400 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ +0.42% ปิดที่ 5.4225 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 20.00 เซนต์ หรือ +2.01% ปิดที่ระดับ 10.1275 ดอลลาร์/บุชเชล
ก่อนหน้านี้ ตลาดธัญพืช โดยเฉพาะถั่วเหลืองได้รับผลกระทบจากสงครามภาษีที่ตอบโต้กันไปมาซึ่งรุนแรงขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนกดดันให้สัญญาถั่วเหลืองร่วงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อวันจันทร์ (7 เม.ย.) เนื่องจากจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลกและซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ ราวครึ่งหนึ่ง ได้ตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จนทำให้ตลาดเกิดความกังวลว่า ความต้องการถั่วเหลืองสหรัฐฯ จะลดลง
นอกจากนี้ ราคาถั่วเหลืองยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งช่วยดันราคาสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองที่ใช้ผลิตไบโอดีเซลตามไปด้วย ขณะเดียวกัน ราคาในตลาดซื้อขายจริง (Cash Market) ที่ยังแข็งแกร่งก็เป็นอีกปัจจัยหนุน เพราะเกษตรกรยังไม่รีบขายผลผลิต ณ ราคาปัจจุบัน ทำให้ปริมาณสินค้าในตลาดค่อนข้างตึงตัว
แนวโน้มความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น หลังมีข้อเสนอจากภาคอุตสาหกรรมให้เพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลสำหรับปี 2569 ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาถั่วเหลืองและข้าวโพด
ด้านราคาข้าวสาลีได้รับแรงหนุนบางส่วนจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง รวมถึงการคาดการณ์ว่าสภาพอากาศในแถบที่ราบเกรตเพลนส์ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกสำคัญ จะแห้งแล้งและร้อนจัดในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ต่างจับตาและปรับสถานะการลงทุน ก่อนที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) จะเปิดเผยรายงานอุปทาน-อุปสงค์ประจำเดือนในวันพฤหัสบดีนี้ (10 เม.ย.)