ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันพฤหัสบดี (10 เม.ย.) สัญญาถั่วเหลืองและสัญญาข้าวโพดปิดบวก ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปิดลดลง
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 9.00 เซนต์ หรือ +1.90% ปิดที่ 4.8300 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 4.25 เซนต์ หรือ -0.78% ปิดที่ 5.3800 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 16.25 เซนต์ หรือ +1.60% ปิดที่ระดับ 10.2900 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เผยแพร่ตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์และอุปทานรายเดือน และมีการเลื่อนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าบางรายการของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกพืชผลของสหรัฐฯ
USDA ปรับลดคาดการณ์ปริมาณสต๊อกข้าวโพดของสหรัฐฯ ในปี 2567-2568 ลงมาอยู่ที่ 1.47 พันล้านบุชเชล จากที่คาดไว้ 1.54 พันล้านในเดือนมี.ค.
USDA ยังประเมินสต๊อกถั่วเหลืองในประเทศไว้ที่ 375 ล้านบุชเชล ลดลงจาก 380 ล้านในเดือนมี.ค. และจากที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 379 ล้านบุชเชล ส่วนสต๊อกข้าวสาลีที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงกดดันต่อราคาสัญญาข้าวสาลี
การเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ ที่ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีตอบโต้ส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน จากที่เพิ่งประกาศใช้ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ช่วยสนับสนุนราคาสินค้าเกษตรและน้ำมันพืชด้วยเช่นกัน
แม้สหรัฐฯ และจีนยังคงตอบโต้กันต่อไป แต่ EU ได้ประกาศเลื่อนการใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศอื่น ๆ ออกไป 90 วันตามหลังการเปลี่ยนท่าทีของทรัมป์
ความเคลื่อนไหวนี้ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกข้าวโพดของสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้ถูก EU เรียกเก็บภาษี 25% ตั้งแต่วันอังคาร (8 เม.ย.) และยังช่วยลดความเสี่ยงที่ EU จะเก็บภาษีถั่วเหลืองสหรัฐฯ ในเดือนธ.ค.นี้ด้วย
นอกจากนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงอย่างรุนแรง ขณะที่นักลงทุนพยายามประเมินข่าวเกี่ยวกับมาตรการภาษีรอบใหม่ ก็ทำให้สินค้าเกษตรของสหรัฐฯ มีราคาถูกลงและแข่งขันได้มากขึ้นในตลาดส่งออก