สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 105.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ดีดขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 108.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงอย่างหนักในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ก.ค. โดยสต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 9.87 ล้านบาร์เรล แตะ 373.9 ล้านบาร์เรล หนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.0 ล้านบาร์เรล ที่ระดับ 123.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล แตะ 221.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 92.4%
ทั้งนี้ นับเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันที่สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก โดยในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มิ.ย. EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงถึง 10.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ประเมินว่าจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้อุปทานน้ำมันสหรัฐร่วงลงแล้วถึง 20.2 ล้านบาร์เรลในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ สถานการณ์ไม่แน่นอนในอียิปต์ยังได้สนับสนุนราคาน้ำมันเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เหตุการณ์ประท้วงในอียิปต์อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตและการขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลาง
ขณะเดียวกันราคาน้ำมันเบนซินทะยานขึ้นวานนี้ เนื่องจากเกิดเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้องทำให้การผลิตที่โรงกลั่นหลายแห่งทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐหยุดชะงัก ซึ่งยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานพลังงาน โดยสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX ทะยานขึ้น 9.61 เซนต์ หรือ 3.2% ปิดที่ 3.1175 ดอลลาร์/แกลลอน ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าราคาขายปลีกตามสถานีบริการน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่กำลังจะมาถึง
ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้น ราคาขายส่งพุ่งขึ้นในเดือนมิ.ย. จากราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวสูง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สำหรับสินค้าสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนราคาขายส่งพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมภาคอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย.
ขณะเดียวกันผลสำรวจที่จัดทำร่วมกันโดยธอมสัน รอยเตอร์ และมหาวิทยาลัยมิชิแกน แสดงให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ค. ขยับลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 83.9 จาก 84.1 ในเดือนก่อนหน้า