ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $2.99 หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐร่วง

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 11, 2013 06:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 108.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงอย่างหนักในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ก.ค. โดยสต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 9.9 ล้านบาร์เรล แตะ 373.9 ล้านบาร์เรล หนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.0 ล้านบาร์เรล ที่ระดับ 123.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล แตะ 221.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล

ทั้งนี้ นับเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันที่สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก โดยในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มิ.ย. EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงถึง 10.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ประเมินว่าจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล

ก่อนหน้านี้การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินดิ่งลง 3.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.2 % สู่ 92.1%

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดว่าความต้องน้ำมันดิบทั่วโลกจะขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ