สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ ปิดที่ 107.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 108.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ก.ค.ในวันพุธนี้เช่นกัน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 2.4 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.2 % จากระดับ 92.8%
ตลาดได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะร่วงลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์พลังงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากสำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้าน (HPI) ได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนพ.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์เปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตในเขตมิดแอตแลนติก ปรับตัวลดลงสู่ระดับ -11 ซึ่งตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น