สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 95 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 106.94 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 2.24 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 2%
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 59 เซนต์ หรือ 0.54% ปิดที่ 108.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตลอดสัปดาห์ สัญญาเพิ่มขึ้น 1.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะอัตราว่างงานลดลงแตะ 7.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551
โดยตัวเลขจ้างงานเดือนล่าสุดนี้เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 175,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน อันเนื่องมาจากภาษีที่สูง และการลดการใช้จ่ายภาครัฐส่งผลให้เศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องขึ้นมากนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้ตัวเลขการจ้างงานยังคงแข็งแกร่งในปีนี้
ขณะที่อัตราว่างงานเดือนก.ค. ถึงแม้ลดลงมากกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้ว่าจะลดลงแตะ 7.5% จากระดับ 7.6% ในเดือนมิ.ย. แต่นั่นอาจเป็นเพราะมีชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นที่ล้มเลิกความคิดที่จะหางาน
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบลดลงไม่รุนแรงนัก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิรัก ลิเบีย และไนจีเรีย นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกทั่วโลกยังคงเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อวันพุธว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 1.7% ในไตรมาส 2 ของปี 2556 มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.1%
ขณะที่มาร์กิต บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงิน เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นแตะ 53.7 ในเดือนก.ค. จากระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนที่ 51.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งสุดของภาคการผลิตในรอบ 4 เดือน
ด้านทางการจีนเผย PMI ภาคการผลิตขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 50.3 ในเดือนก.ค. จาก 50.1 ในเดือนมิ.ย. ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนซึ่งสำรวจโดยมาร์กิต เพิ่มขึ้นแตะ 50.3 จาก 48.8 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ภาคการผลิตในเขตยูโรกลับสู่ภาวะขยายตัว