สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้แรงหนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอียิปต์ซึ่งมีคลองสุเอซตัดผ่านและมีเรือบรรทุกน้ำมันจากตะวันออกกลาง โดยล่าสุดมีประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 235 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คนจากเหตุปะทะตลอดทั้งอียิปต์ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮาเม็ด มอร์ซี ในเมืองใหญ่ 2 แห่งของอียิปต์
ทั้งนี้ รัฐบาลอียิปต์ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ภายหลังกองกำลังความมั่นคงบุกสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีมอร์ซี
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ส.ค. ร่วงลง 2.81 ล้านบาร์เรล แตะที่ 360.49 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงราว 1.3-1.5 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 128.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะจะเพิ่มขึ้นราว 600,000-800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 1.17 ล้านบาร์เรล แตะที่ 222.43 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล