ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดเพิ่มขึ้น $1.39 หลังดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า

ข่าวต่างประเทศ Saturday August 24, 2013 08:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนก.ค. นอกจากนี้ สถานการณ์รุนแรงในตะวันออกลางที่สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันทั่วโลกก็ช่วยดันสัญญาน้ำมันดิบให้ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 106.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.41 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 111.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันแทบไม่เปลี่ยนแปลงในการซื้อขายช่วงเช้า แต่หลังจากนั้นก็ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ภายหลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่น่าผิดหวัง โดยดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น และดึงดูดนักลงทุนให้เข้าเทรดมากขึ้น

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนก.ค.อยู่ที่ 394,000 หลัง ร่วงลง 13.4% จากเดือนมิ.ย. ซึ่งยอดขายบ้านที่อ่อนแอเป็นสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่สูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยถ่วงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย

ด้านวิกฤตการเมืองในตะวันออกกลางก็ช่วยหนุนราคาน้ำมันเช่นกัน โดยถึงแม้อียิปต์ไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันหลัก แต่อียิปต์ควบคุมคลองสุเอซและท่อส่งน้ำมันระหว่างคลองสุเอซและเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งถือเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการขนส่งน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นระหว่างทะเลแดงและเมดิเตอร์เรเนียน

นอกจากนี้ ล่าสุดมีรายงานว่าเกิดระเบิดหลายครั้งที่เลบานอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 ราย ซึ่งยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในภูมิภาค

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับกำหนดเวลาที่เฟดจะเริ่มลดการซื้อพันธบัตร โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐกำลังประชุมร่วมกันเป็นเวลา 3 วันที่แจ๊คสัน โฮล รัฐไวโอมิง เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ