สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 3.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 3.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรียมีขึ้นหลังจากนายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวกับบีบีซีเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐพร้อมเปิดฉากโจมตีซีเรีย หากประธานาธิบดีบารัค โอบามา เลือกใช้มาตรการดังกล่าวและได้สั่งการลงมา
นายฮาเกลกล่าวกับบีบีซีว่า กระทรวงกลาโหมได้ให้ทางเลือกทุกทางแก่ปธน.โอบามาไม่ว่าผู้นำสหรัฐจะตัดสินใจเลือกใช้มาตรการใด พร้อมกล่าวเสริมว่า "เราพร้อมลุยแล้ว" และยังกล่าวด้วยว่าเป็นที่ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนในซีเรีย โดยข้อมูลข่าวกรองที่รวบรวมโดยผู้ตรวจการของยูเอ็นจะยืนยันว่า รัฐบาลซีเรียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้
ทั้งนี้ วิกฤตการณ์ในซีเรียเลวร้ายลง หลังจากที่มีรายงานข่าวว่ามีการใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกองกำลังฝ่ายต่อต้านชี้ว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แม้ว่ากองทัพซีเรียได้ออกมาปฏฺเสธข้อกล่าวหานี้ก็ตาม
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาของสหรัฐ โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 12.1% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวลงจากที่เพิ่มขึ้น 12.2% เมื่อเทียบรายปีในเดือนพ.ค. ส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอาจลดความร้อนแรงลง
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ส.ค.ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลงราว 100,000-150,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้นราว 700,000-750,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลงราว 1.0-1.2 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.5% จากระดับ 91%