ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดบวก 89 เซนต์ เหตุวิตกสถานการณ์ซีเรีย

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 4, 2013 06:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรีย หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังล็อบบี้สภาคองเกรสให้สนับสนุนการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 89 เซนต์ ปิดที่ 108.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเนื่องจากรัฐบาลสหรัฐยังคงโน้มน้าวให้สภาคองเกรสสนับสนุนการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่คณะผู้ตรวจสอบอาวุธของสหประชาชาติ หรือยูเอ็นกำลังเร่งวิเคราะห์หลักฐานตัวอย่างที่รวบรวมได้จากพื้นที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐได้เชิญนายจอห์น แม็คเคนและนางลินซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลีกัน มายังทำเนียบขาวเพื่อหารือประเด็นการแทรกแซงทางทหารในซีเรีย โดยวุฒิสมาชิกดังกล่าวต้องการให้มีการดำเนินมาตรการที่นอกเหนือจากเพียงแค่การโจมตีด้วยขีปนาวุธ

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนมิ.ย. สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 9.008 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นผลมาจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยโครงการก่อสร้างของรัฐบาลที่ลดลง ขณะที่สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.7 ในเดือนส.ค. จากระดับ 55.4 ในเดือนก.ค. นับเป็นการปรับตัวขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบกว่าสองปี และเป็นการขยายตัวเดือนที่สามติดต่อกัน โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมอาจขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ