ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯมีมติด้วยคะแนนเสียง 10-7 ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับการลงมติอย่างเต็มรูปแบบของวุฒิสภาที่มีแนวโน้มจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยญัตติดังกล่าวจะจำกัดระยะเวลาการโจมตีไว้ที่ 60 วัน โดยอาจจะสามารถขยายเวลาได้อีก 30 วัน และจะกำหนดกรอบให้อยู่ภายในพรมแดนของซีเรีย ขณะที่ห้ามไม่ให้มีการส่งกำลังทหารภาคพื้นดินของสหรัฐเข้าไปปฏิบัติการสู้รบในซีเรีย
ทางด้านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐก็จะอภิปรายญัตติในการให้อำนาจปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียในสัปดาห์หน้า แต่บรรดาผู้นำในสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ประกาศกำหนดวันอภิปราย โดยเชื่อกันว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นดังกล่าวมากกว่าวุฒิสภา
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลงราว 1.0-1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้นราว 800,000-900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลงราว 200,000-250,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.8% จากระดับ 91.3%
ก่อนหน้านี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชนด้านพลังงานของสหรัฐระบุว่า สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค.ของสหรัฐ ร่วงลง 4.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 109,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 387,000 บาร์เรล