สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปรับตัวขึ้น 35 เซนต์ ปิดที่ 115.26 ดอลลาร์/บาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค.ร่วงลง 1.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 360.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 1.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 250,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 91.7% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 91.3%
การปรับตัวลดลงเกินคาดของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการพลังงานภายในประเทศยังคงแข็งแกร่งอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น
ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ของการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค.ของสหรัฐ ร่วงลง 4.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 109,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 387,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 58.6 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 56
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค.ปรับตัวลดลง 9,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 323,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง