สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 0.91% ปิดที่ 109.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.4 ดอลลาร์ หรือ 2.07% ปิดที่ 113.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังสัญญาน้ำมันดิบ WET พุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ อันเนื่องมาจากความเป็นไปได้เกี่ยวกับการโจมตีทางหารต่อรัฐบาลซีเรียได้จุดปะทุความกังวลของตลาดเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้น โดยภูมิภาคดังกล่าวมีการผลิตน้ำมันดิบเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของโลก
นักลงทุนจับตาดูการประชุมวุฒิสภาสหรัฐในวันพุธนี้ หลังจากคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐลงมติเห็นชอบญัตติให้อำนาจในการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย ด้วยคะแนนเสียง 10-7 ซึ่งเป็นการปูทางสำหรับการลงมติอย่างเต็มรูปแบบของวุฒิสภาที่มีแนวโน้มจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
ทางด้านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐก็จะอภิปรายญัตติในการให้อำนาจปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียในสัปดาห์นี้เช่นกัน แต่บรรดาผู้นำในสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ประกาศกำหนดวันอภิปราย โดยเชื่อกันว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นดังกล่าวมากกว่าวุฒิสภา
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า มูลค่าการส่งออกของจีนเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.9073 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการนำเข้าเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 7% สู่ระดับ 1.6212 แสนล้านดอลลาร์ เป็นผลให้เดือนส.ค.จีนเกินดุลการค้า 2.86 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า การขยายตัวของการส่งออกเดือนส.ค.มากกว่าเดือนก.ค. 2.1%