อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากความตึงเครียดเกี่ยวกับสถานการณ์อิหร่านเริ่มคลี่คลายลง จากมุมมองของนักลงทุนที่ว่า การที่ประธานาธิบดีอิหร่านเดินทางไปยังสหประชาชาติในสัปดาห์นี้ จะส่งผลในด้านบวกต่อการเจรจาในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์และการคว่ำบาตรอิหร่าน
ประธานาธิบดีฮัสซาน รูฮานี ของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านต้องการมีความสัมพันธ์อันดีกับกับประเทศอื่นๆโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเคารพ และผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมให้คำมั่นว่า จะไม่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อีกในอนาคต นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล แตะ 358.3 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ลดลง 234,000 บาร์เรล สู่ระดับ 130.8 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราคาดว่าจะร่วงลง 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 217,000 บาร์เรล แตะ 216.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล