สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 102.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 108.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า สหรัฐอาจจะต้องเผชิญกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลาง โดยล่าสุด วุฒิสภาสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 54 ต่อ 46 ไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินซึ่งเป็นฉบับที่สภาผู้แทนราษฏรได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐจะส่งร่างกฎหมายที่มีเพียงมาตรการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-15 พ.ย.ฉบับนี้ ไปให้กับสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อ หากสภาผู้แทนราษฎรไม่ให้การรับรองร่างกฎหมายก่อนวันนี้ (1 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ตามเวลาไทย สหรัฐก็อาจจะเผชิญกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางในบางส่วนในวันนี้ ซึ่งนับเป็นการปิดหน่วยงานครั้งแรกในรอบ 17 ปี
มอร์แกน สแตนลีย์ประมาณการว่า การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง และจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ หดตัวลง 0.15% ต่อไตรมาส
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 55.7 จาก 53.0 ในเดือนส.ค.
ดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของชิคาโกมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.5% จากเดือนก่อนหน้า แตะที่ 96.7 เทียบกับ 95.4 ในเดือนก.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของภาคการผลิตส่วนใหญ่ แม้ว่าภาคการผลิตเหล็กกล้าหดตัวลง