สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 102.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 107.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังคงปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ หลังจากเนื่องจากสภาคองเกรสไม่สามารถประนีประนอมกันได้เกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่วคราวภายในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 30 ก.ย.ตามเวลาสหรัฐ ก่อนที่จะเริ่มปีงบประมาณใหม่
การปิดหน่วยงานรัฐบาลดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2539 หรือในรอบ 17 ปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการงบประมาณของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.2 ในเดือนก.ย. จากระดับ 55.7 ในเดือนส.ค. นับเป็นการขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบเกือบสองปีครึ่ง โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมอาจขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย.ในวันพุธนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะ 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 500,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะลดลง 0.7%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดู ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนก.ย.ในวันนี้เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.