ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.88 หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 10, 2013 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 4 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์พลังงานของสหรัฐชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 101.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวลง 1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.06 ดอลลาร์/บาร์เรล

EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ต.ค. พุ่งขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 370.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 126 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 149,000 บาร์เรล แตะ 219.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล

ด้านอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 3% สู่ระดับ 86% จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลงเพียง 0.8%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังและการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งการปิดหน่วยงานได้ย่างเข้าสู่วันที่ 9 แล้ว ขณะที่สภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างกฏหมายเพิ่มเพดานหนี้ให้กับรัฐบาลกลาง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและส่งผลให้อุปสงค์พลังงานลดน้อยลงด้วย

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศแต่งตั้งนางเจเน็ต เจลเลนให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ โดยตลาดการเงินมองว่านางเยลเลนมีแนวโน้มที่จะสานต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของนายเบอร์นันเก้ และจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันในระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ