สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.8 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ต.ค. พุ่งขึ้น 5.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 379.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงเพียง 800,000 บาร์เรล แตะที่ 215.5 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ระดับ 85.9% จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 86.2%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 148,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ต.ค. ปรับตัวขึ้นเกินคาด โดยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล แตะ 374.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 3 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล แตะ 217.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล
ด้านอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 86.2% จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัว