สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 98.2 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 109.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งอาจจะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ต.ค.ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 85.9%
ด้านโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เมื่อพิจารณาจากข้อจำกัดด้านอุปทานในลิเบีย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ด้านกระทรวงแรงงานรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.
ยอดค้าปลีกที่อ่อนแอกว่าคาดการณ์ และดัชนี PPI ที่ต่ำกว่าคาด ได้เพิ่มน้ำหนักให้กับการคารดารณ์ที่ว่า เฟดจะมีมติคงมาตรการกระตุ้นในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินระยะเวลา 2 วัน ซึ่งจะเริ่มต้นในวันนี้
นอกจากนี้ สหรัฐยังมีการเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller เดือนส.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค
ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยร่วงลงอย่างหนักสู่ระดับ 71.2 ในเดือนต.ค. จากระดับ 80.2 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ดัชนีเดือนต.ค.จะลดลงแตะ 75.0