ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.43 หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 31, 2013 06:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการภายในประเทศปรับตัวลดลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.77 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ปิดที่ 109.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4.09 ล้านบาร์เรล แตะ 383.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.2 ล้านบาร์เรล

สต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.06 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 122.7 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินหดตัวลง 1.71 ล้านบาร์เรล แตะ 213.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล

สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.4% สู่ระดับ 87.3% จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ระดับ 85.9%

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งล่าสุดนั้น ก็แทบจะไม่มีผลกระทบต่อตลาดน้ำมันนิวยอร์ก เนื่องจากนักลงทุนได้คาดการณ์กันไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเฟดจะใช้มาตรการ QE ต่อไป หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐซบเซาลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ