สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 94.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 106.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวก หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนต.ค.ขยายตัวแตะ 56.3 จากระดับเดือนก.ย.ที่ 55.4 ซึ่งดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงขยายตัว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 59.3 จาก 53.6 ในเดือนก.ย. โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจมีการขยายตัว
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐในเดือนก.ย. ปรับตัวขึ้น 1.7% หลังจากที่ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค.และร่วงลง 2.8% ในเดือนก.ค. เพราะได้แรงหนุนจากความต้องการเครื่องบินที่พุ่งขึ้น 57.7% แม้ว่าอุปสงค์ในด้านเครื่องจักรร่วงลง 23.6% เช่นเดียวกับการหดตัวลงอย่างหนักในด้านเครื่องจักรก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันยังปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันของสหรัฐจะอยู่ในระดับที่พอเพียงรองรับอุปสงค์ โดยสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดน้ำมันได้เผชิญกับภาวะอุปทานที่มากเกินไปมาระยะหนึ่งแล้ว และสถานการณ์ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 383.9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 25 ต.ค. เนื่องจากการผลิตน้ำมันจากหินน้ำมันนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก