สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 93.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 108.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากนางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐว่า การผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันควรดำเนินต่อไปในขณะนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเฟดจะยังเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป
นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่เร่งปรับลดขนาดการใช้มาตรการ QE เมื่อพิจารณาจากถ้อยแถลงครั้งล่าสุดของนางเยลเลนที่ว่า เฟดจะประเมินว่ามีความคืบหน้าในตลาดแรงงานหรือไม่ ซึ่งแม้ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก แต่อัตราว่างงานที่ 7.3% ในเดือนต.ค.นั้นเป็นระดับที่สูงเกินไป ซึ่งสะท้อนถึงตลาดแรงงานและเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 พ.ย. พุ่งขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล แตะที่ 388.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอยังได้สกัดแรงบวกของสัญญาน้ำมันดิบด้วย โดยเฟดเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงในเดือนต.ค. เนื่องจากผลผลิตที่เหมืองแร่และสาธารณูปโภคลดลง ซึ่งบดบังการเพิ่มขึ้นของผลผลิตที่โรงงาน
ทั้งนี้ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งรวมการผลิตที่โรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ลดลง 0.1% ในเดือนต.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลง 0.2% แตะ 78.1% ในเดือนต.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอยู่ที่ 78.3% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า