สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ที่ร่วงลง 81 เซนต์ ปิดที่ 93.03 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายชาร์ส พลอสเซอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เฟดควรจะยุติมาตรการ QE หรือโครงการซื้อสินทรัพย์ซึ่งปัจจุบันมีวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยเขาระบุว่าเฟดควรกำหนดจำนวนที่ชัดเจนสำหรับโครงการซื้อพันธบัตร แทนที่จะพยายามปรับสัดส่วนการซื้อโดยอิงกับการประเมินตัวแปรทางเศรษฐกิจในแต่ละเดือน และควรยุติโครงการเมื่อได้มีการซื้อพันธบัตรถึงจำนวนที่กำหนดไว้
ขณะที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า เขามีมุมมองที่เป็นบวกอย่างมากต่อเศรษฐกิจหสหรัฐ และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะเรียกร้องให้เฟดชะลอการใช้ QE
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข่าวเกี่ยวกับการประชุมระหว่างชาติมหาอำนาจกับอิหร่านว่าด้วยแผนการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันพุธที่ 20 พ.ย.นี้ ท่ามกลางความคืบหน้าสู่การบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งดังกล่าว ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาพลังงาน
นักลงทุนยังจับตาดูการกล่าวแสดงความเห็นของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด และชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด ชิคาโกในวันนี้ รวมถึงรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 29-30 ต.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาไทย เพื่อประเมินสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคตของเฟด