สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 93.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนหลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ระบุว่า เฟดจะคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินตราบนานเท่าที่จำเป็น และต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนก่อนที่จะเริ่มชะลอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเจ้าหน้าที่เฟดจะพิจารณาความคืบหน้าโดยรวมนับแต่เริ่มใช้มาตรการ QE3 ในช่วงปลายปี 2555 พร้อมกับประเมินแนวโน้มของตลาดแรงงานด้วย
ขณะเดียวกันสัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยบวกหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐขยายตัว 0.4% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.1% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ดีดตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงในเวลาต่อมา หลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย. เพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล แตะที่ 388.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข่าวเกี่ยวกับการประชุมระหว่างชาติมหาอำนาจกับอิหร่านว่าด้วยแผนการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ ท่ามกลางความคืบหน้าสู่การบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งดังกล่าว ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาพลังงาน