รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ต.ค.ระบุว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดจำนวนมากพิจารณาว่าเฟดอาจจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ “ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า" นั้น เจ้าหน้าที่รายอื่นๆบางส่วนยืนกรานให้รอความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ ก่อนทำการตัดสินใจใดๆ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่าข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งในเดือนพ.ย.จะทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดจะเริ่มปรับลดมาตรการ QE ในเดือนธ.ค. พร้อมกับกล่าวว่า เฟดควรยึดอัตราว่างงานที่ 6.5% ซึ่งเฟดได้กำหนดไว้เมื่อปีที่แล้ว เป็นเกณฑ์ก่อนที่จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเจ้าหน้าที่เฟดได้มีการหารือกันในประเด็นการปรับลดเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย.เพิ่มขึ้น 375,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 4.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 345,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.1% แตะที่ 88.6%